ถ้ำหมีเหนือ – เสือใต้ หรือผาหมี อยู่ห่างจากหมู่บ้านประมาณ ๕ กิโลเมตร ตั้งอยู่ในเขตตำบลท่าคล้อ อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ซึ่งเป็นเขตติดต่อกับตำบลหินซ้อน ภายในเป็นถ้ำ และมีสระน้ำขนาดใหญ่ การเดินทางไปที่ถ้ำแห่งนี้อาศัยทางน้ำเพียงเส้นทางเดียว
การคมนาคมด้านอื่นไม่สะดวกนัก
ในวันหยุดและวันหยุดนักขัตฤกษ์มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมอยู่เป็นประจำ รายการโทรทัศน์เคยบันทึกภาพทำสารคดีหลายชุด เช่น รายการส่องโลก ทาง ททบ. ๕ นิตยสารแคมปิ้ง และสารคดีชุดมหัศจรรย์เมืองไทย ซึ่งถ้ำหมีเหนือ – เสือใต้แห่งนี้ เป็นถ้ำที่น่ามหัศจรรย์คือ อยู่ติดกับแม่น้ำป่าสัก ซึ่งเป็นแม่น้ำสายสำคัญของชาวจังหวัดสระบุรี แม่น้ำสายนี้มีต้นกำเนิดจากจังหวัดเพชรบูรณ์ไหลผ่านจังหวัดสระบุรีและไปสิ้นสุดที่อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งราษฎรที่อยู่สองฝั่งแม่น้ำได้ใช้ประโยชน์จากแม่น้ำสายนี้ ทางด้านเกษตรกรรม คมนาคมขนส่ง และบริโภค ในปัจจุบันยังใช้ในด้านอุตสาหกรรม และท่องเที่ยวอีกด้วย ซึ่งถ้ำหมีเหนือ – เสือใต้ ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งในการดึงดูดนักท่องเที่ยวใช้เข้าชมความงดงามของหินงอกหินย้อยภายในถ้ำ ความมหัศจรรย์ของสระว่ายน้ำภายในถ้ำ และชมทัศนียภาพสองฝั่งแม่น้ำตลอดระยะทาง รวมทั้งวิถีชีวิตชาวบ้านชนบทที่ทำกิจกรรมในยามเย็น สาวน้อยเล่นน้ำ เกษตรกรรมริมน้ำ การจับปลา

                 หมีเหนือ – เสือใต้ เป็นถ้ำและผาหินปูนเกิดจากหินงอกออกจากตัวผนังภูเขา เป็นรูปคล้ายหมีขนาดใหญ่สีดำคาดขาว ลักษณะคล้ายกระโจนลงน้ำ ซึ่งตัวหมีดังกล่าวอยู่ทางด้านทิศเหนือของ
แม่น้ำป่าสัก จึงได้ฉายาว่า “หมีเหนือ” และถัดจากตัวหมีลงมาทางใต้ จะมองเห็นผามีลายขวาง
สีเหลืองสลับแดงปนส้มคล้ายลายเสือโคร่ง หรือลายพาดกลอนจึงได้รับฉายาว่า “เสือใต้”

                 มีเรื่องเล่ากันว่า ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ ได้มีทหารญี่ปุ่นและชาวบ้านนำทรัพย์สมบัติหนีสงครามมาซุกซ่อนไว้ภายในถ้ำแห่งนี้ ต่อมาเจ้าของสมบัติได้ไปเข้าฝันชายหนุ่มในหมู่บ้านคนหนึ่งโดยให้ชายหนุ่มไปขุดเอาสมบัติภายในถ้ำ ซึ่งจะมีเครื่องหมายเป็นรูปตัวหมีบอกไว้แล้วให้เข้าไปตามสัญลักษณ์นั้นแต่มีเงื่อนไขอยู่ ๓ ข้อคือ

๑.จะต้องไปในคืนเดือนเพ็ญ (วันที่พระจันทร์เต็มดวง)

๒.จะต้องไปเพียงลำพังคนเดียว

๓.จะต้องอุทิศส่วนกุศลให้เจ้าของเดิม

            เมื่อตื่นจากฝันชายหนุ่มผู้นั้นได้ไปเล่าความฝันให้เพื่อนสนิทในหมู่บ้านฟัง แล้วตกลงกันว่า
ในคืนวันเพ็ญจะไปขุดสมบัติที่ถ้ำแห่งนี้ด้วยกัน ครั้นพอถึงคืนเดือนเพ็ญ ชายหนุ่มและเพื่อนต่างก็เตรียมอุปกรณ์ในการขุดสมบัติครบครันแล้ว เขาและเพื่อนก็พายเรือไปยังถ้ำที่คาดว่าจะพบสมบัติ
แห่งนั้น เมื่อมาถึงช่องแคบซึ่งเรือผ่านได้ลำเดียวเท่านั้น ซ้ำน้ำยังไหลเชี่ยวอีก ชายหนุ่มทั้งสองช่วยกันพายเรือผ่านช่องแคบขึ้นไปด้วยความเหน็ดเหนื่อย และแล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ชายหนุ่มคนหนึ่งได้มองไปที่หน้าผา ซึ่งขณะนั้นแสงจันทร์กำลังสาดส่องมากระทบเห็นเป็นลายทางสีเหลืองสลับแดงเหมือนที่เขาเห็นในฝัน ทำให้ความเหน็ดเหนื่อยของเขาคลายลงและชวนเพื่อนพายเรือไปใกล้ๆ และแล้วเขาต้องตกตะลึงเมื่อพบกับสัตว์สีดำตัวมหึมา กำลังจะกระโดดลงมาในเรือของเขา ทำไมมันช่างเหมือนสัตว์ตัวที่เขาเคยฝันเห็น เขาคิดอยู่ในใจว่าอาจจะเป็นโชคมหาศาลสำหรับเขา จึงชวนเพื่อนลอดเข้าไปในช่องมืดและแคบนั้น เขาแทบไม่เชื่อสายตาตนเองเมื่อพบกับหีบสมบัติมากมายอยู่ในถ้ำเขาและเพื่อนช่วยกันเปิดออกดูภายในมีทรัพย์สมบัติ
เพชร นิล จินดา มากมาย รวมทั้งไหอีกนับไม่ถ้วน ชายหนุ่มกำลังชื่นชมอยู่กับทรัพย์สมบัติที่อยู่เบื้องหน้า โดยหารู้ไม่ว่าเพื่อนสนิทของเขากำลังวางแผนจะเป็นเจ้าของทรัพย์สมบัติแต่เพียงผู้เดียว และแล้วแผนการก็เริ่มขึ้นเพื่อนสนิทได้กล่าวกับเขาว่า “สมบัติน่าจะเป็นของข้า เพราะข้าเป็นคนพบลายแทง” ชายหนุ่มก็บอกว่าเขาเป็นคนนำมาและสมบัตินี้ต้องเป็นของเขา เพราะเจ้าของไปเข้าฝันเขา ทั้งสองทะเลาะกันเสียงดังลั่นถ้ำ เพื่อที่ต่างคนต่างต้องการทรัพย์สมบัติคนเดียวเท่านั้น อนิจจา สิ่งศักดิ์สิทธิ์
ไม่เข้าข้างคนโลภ คนโกง คนทรยศ และคนไม่รักษาสัจจะ เช่นชายหนุ่มทั้งสองนี้ทรัพย์สมบัติทั้งหลายจึงพากันกลิ้งตกลงในน้ำหน้าถ้ำต่อหน้าชายหนุ่มทั้งสอง และมิปรากฏให้ผู้ใดพบเห็นอีกเลย